The purposes of this study were : to produce an Instructional Digital DVD on Recording Control Practice meeting the standardized efficiency criterion of 80/80; to test this DVD production on selected undergraduate students by using a pre-test and a post-test; to compare the academic achievement of the students on Instructional Digital DVD traditional methods; and the levels of satisfaction rated by the students upon finishing the DVD Courses. The research population consisted of 40 undergraduate students from the Faculty of Education, Ramkhamhaeng University who were enrolled in the second semester of the academic year 2013. The results were analyzed by descriptive statistics including mean, standard deviation, the difficulty parameter (p), discriminatory and t-test analysis. power (r) in which were performed by using a computer program. The results have shown that: (1) The DVD on Recording Control Practice Courses had satisfied efficiency meeting the criterion at 83.64/85.33. (2) The post-test scores for both groups of students displayed means at a higher level than the pre-test. (3) by comparing the experimental group of using this produced DVD, academic achievement of the experimental group higher than that of the control group using traditional methods, at the statistically significant level of 0.05; and (4) Overall, the degree of satisfaction in the experimental students using the produced DVD was at the good level.

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างบทเรียนวีดิทัศน์เรื่อง การฝึกปฏิบัติการควบคุมการบันทึกเสียงให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 ศึกษาเรื่อง การฝึกปฏิบัติการควบคุมการบันทึกเสียงของนักศึกษาก่อนและหลังเรียน เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยวีดิทัศน์และการสอนแบบปกติ ศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาที่เรียนโดยใช้วีดิทัศน์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชาเอกเทคโนโลยีการศึกษา ที่ลงทะเบียนเรียนวิชาเทคโนโลยีเสียง-เบื้องต้น คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 จำนวน 40 คนแบ่ง เป็นกลุ่มทดลองที่เรียนด้วยวีดิทัศน์ จำนวน 20 คน และกลุ่มควบคุมเรียนแบบปกติจำนวน 20 คน สถิติ ที่ใช้ ได้แก่ หาค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความยากง่าย (p) ค่าอำนาจจำแนก (r) และการทดสอบที (t-test) ผลการวิจัยพบว่า (1) บทเรียนวีดิทัศน์เรื่อง การฝึกปฏิบัติการควบคุมการบันทึกเสียงมีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.64/85.33 (2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน (3) ผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียนกลุ่มที่ใช้บทเรียนวีดิทัศน์สูงกว่ากลุ่มที่เรียนปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และ (4) นักศึกษาที่เรียนโดยใช้วีดิทัศน์โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก